อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษาลมพิษที่คุณควรรู้
อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษาลมพิษที่คุณควรรู้
DSC05784-Web-H-scaled

ลมพิษ (Urticaria) เป็นโรคผิวหนังที่พบได้ทั่วไป ซึ่งมักแสดงอาการเป็นผื่นหรือปื้นสีแดงคันที่ผิวหนัง ลักษณะเด่นของลมพิษคือปื้นผิวที่บวมขึ้นและมีอาการคัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นในบริเวณใดของร่างกายก็ได้ โดยปกติแล้วลมพิษจะเกิดขึ้นชั่วคราวและหายไปเองในเวลาไม่กี่ชั่วโมงถึงไม่กี่วัน แต่ในบางกรณีอาจเกิดขึ้นบ่อยๆ หรือเป็นเรื้อรัง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับอาการของลมพิษ สาเหตุที่ทำให้เกิด และวิธีการรักษาที่เหมาะสม

อาการของลมพิษ

อาการหลักของลมพิษคือการเกิดผื่นหรือปื้นที่ผิวหนัง ซึ่งมีลักษณะดังนี้:

  1. ปื้นบวมแดง : บริเวณที่เป็นลมพิษมักจะมีลักษณะเป็นปื้นสีแดงหรือสีขาวที่บวมขึ้น อาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ และรูปร่างไม่แน่นอน ปื้นเหล่านี้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
  2. อาการคัน : ผู้ที่มีลมพิษมักจะมีอาการคันอย่างมากในบริเวณที่เกิดผื่นหรือปื้น การเกาหรือสัมผัสอาจทำให้อาการแย่ลง
  3. ปื้นหายได้เอง : ปื้นที่เกิดขึ้นมักจะหายไปเองภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงถึงไม่กี่วัน แต่บางกรณีอาจเกิดขึ้นใหม่ในบริเวณอื่นของร่างกาย

ในบางกรณีที่ลมพิษรุนแรง อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น บวมที่ตา ริมฝีปาก หรือคอ ซึ่งเป็นอาการที่ต้องรับการรักษาอย่างเร่งด่วน

สาเหตุของลมพิษ

ลมพิษเกิดจากการที่ร่างกายปล่อยสารฮีสตามีน (Histamine) ซึ่งทำให้หลอดเลือดขยายตัวและเกิดการบวมที่ผิวหนัง สาเหตุที่ทำให้เกิดการปล่อยฮีสตามีนมีหลายประการ เช่น:

  1. การแพ้อาหาร : อาหารบางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดลมพิษ เช่น อาหารทะเล นม ไข่ ถั่วลิสง หรือสตรอเบอร์รี
  2. แพ้ยาหรือสารเคมี : ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด หรือยาแก้แพ้บางชนิด อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้และทำให้เกิดลมพิษ
  3. ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม : การสัมผัสกับสารเคมี สัตว์เลี้ยง ฝุ่น หรือแมลงบางชนิดอาจทำให้เกิดลมพิษ
  4. อากาศ : การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ เช่น ความเย็นหรือความร้อนมากเกินไป อาจเป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดลมพิษในบางคน
  5. ความเครียดและอารมณ์ : ความเครียดหรือภาวะอารมณ์ที่ไม่คงที่อาจกระตุ้นการเกิดลมพิษในบางราย

นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดของลมพิษได้ ซึ่งเรียกว่า “ลมพิษที่ไม่ทราบสาเหตุ” (Idiopathic Urticaria)

การวินิจฉัยลมพิษ

การวินิจฉัยลมพิษโดยทั่วไปจะทำได้โดยการตรวจสอบอาการที่ปรากฏบนผิวหนัง อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยเกิดลมพิษเรื้อรังหรือเกิดขึ้นบ่อยๆ แพทย์อาจทำการตรวจเลือดหรือการทดสอบทางผิวหนังเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุของการแพ้และการตอบสนองของร่างกายต่อสารต่างๆ

วิธีการรักษาลมพิษ

การรักษาลมพิษขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและสาเหตุที่ทำให้เกิดลมพิษ สำหรับลมพิษที่เกิดขึ้นชั่วคราวและไม่รุนแรง สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้:

  1. ยาแก้แพ้ (Antihistamines) : ยาแก้แพ้สามารถลดอาการคันและบวมที่เกิดจากลมพิษได้ ยาแก้แพ้ที่ใช้บ่อยได้แก่ ลอราทาดีน (Loratadine) และเซทิริซีน (Cetirizine)
  2. ยาทาแก้อักเสบ: ในบางกรณี แพทย์อาจสั่งยาทาที่ช่วยลดอาการอักเสบและอาการคันที่เกิดจากลมพิษ เช่น ครีมสเตียรอยด์
  3. หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น : หากสามารถระบุสาเหตุที่ทำให้เกิดลมพิษได้ เช่น อาหาร สารเคมี หรือยาบางชนิด ควรหลีกเลี่ยงสารเหล่านี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดลมพิษอีก
  4. การปรับพฤติกรรม : ลดความเครียด และพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้อารมณ์เครียดหรือเปลี่ยนแปลง อาจช่วยลดโอกาสการเกิดลมพิษได้

ในกรณีที่ลมพิษเกิดขึ้นบ่อยๆ หรือมีอาการรุนแรง เช่น ปากบวม หายใจลำบาก ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที แพทย์อาจใช้ยาที่แรงขึ้น เช่น ยาสเตียรอยด์ หรือยาฉีดเอพิเนฟรีน (Epinephrine) เพื่อควบคุมอาการ

การป้องกันลมพิษ

การป้องกันลมพิษสามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ : หากทราบว่าแพ้อาหารบางชนิด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเหล่านั้น
  2. ระวังสภาพอากาศ : การสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น การสัมผัสกับความร้อนหรือความเย็นเกินไป อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดลมพิษ
  3. ลดความเครียด : การจัดการความเครียดในชีวิตประจำวันด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การทำสมาธิ หรือการผ่อนคลาย ช่วยป้องกันการเกิดลมพิษที่มีสาเหตุมาจากความเครียด

สรุป

ลมพิษเป็นอาการที่พบได้บ่อยและสามารถรักษาได้ด้วยยาและการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิด หากเกิดลมพิษบ่อยๆ หรือมีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม การดูแลสุขภาพทั่วไปและการจัดการความเครียดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดลมพิษได้

ติดต่อเรา

หมวดหมู่ : ทั่วไป

โพสต์ล่าสุด

DSC05784-Web-H-scaled
กรุ๊ปเลือดเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญของร่างกายที่มีผลต่อหลายๆ ด้านในชีวิต เช่น การบริจาคเลือด การรับเลือ...
DSC05784-Web-H-scaled
เลือดเป็นของเหลวที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของร่างกายมนุษย์ โดยทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจน สารอ...
DSC05784-Web-H-scaled
ลมพิษ (Urticaria) เป็นโรคผิวหนังที่พบได้ทั่วไป ซึ่งมักแสดงอาการเป็นผื่นหรือปื้นสีแดงคันที่ผิวหนัง ลั...
DSC05784-Web-H-scaled
สเปิร์ม (Sperm) เป็นเซลล์สืบพันธุ์ที่ผลิตโดยเพศชายและมีบทบาทสำคัญในการสร้างชีวิตใหม่ โดยการรวมตัวกับ...
DSC05784-Web-H-scaled
โกโก้ (Cocoa) เป็นส่วนผสมหลักในช็อกโกแลตที่หลายคนรู้จัก แต่คุณรู้หรือไม่ว่าโกโก้ดิบหรือน้ำโกโก้แท้มี...
DSC05784-Web-H-scaled
อาหารหลัก 5 หมู่เป็นพื้นฐานของการบริโภคอาหารที่สมดุลและเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็...